ข่าวประชาสัมพันธ์
สำนักการแพทย์
514 ถนนหลวง เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพมหานคร 10100
โทร 0 2622 5047 โทรสาร 0 2224 2969

Description: D:\พี่จ๋า(พรเพ็ญ)\Bangkok Health Fair\Bangkok Health Fair 2010\BHF 2010 - 1 ต.ค. 53 - 2\BHFอื่นๆ\logo ทั้งชีวิต...เราดูแล\Logo ทั้งชีวิต เราดูแล.jpg

สำนักการแพทย์ ร่วมแปลอักษรน้อมรำลึกอาลัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

            วันที่ 26 ต.ค. 59 เวลา 08.00 น. นพ.สมชาย จึงมีโชค รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์(รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการแพทย์) เข้าร่วมพิธีถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร แพทย์ พยาบาล ข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานคร ประมาณ 3,500 คน ร่วมพิธี ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
เริ่มต้นด้วยการร่วมกันร้องเพลงชาติไทย ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ และกล่าวถวายความอาลัย จากนั้น ยืนสงบนิ่งเพื่อแสดงความอาลัย 89 นาที ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งร้องนำโดย นายกิตตินันท์ ชินสำราญ (กริช เดอะ วอยซ์) และถวายความเคารพ เป็นอันเสร็จพิธี

             ตามที่สำนักพระราชวังได้ออกประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสร็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 นำความโศกเศร้ามาสู่พสกนิกาชาวไทยทั้งแผ่นดิน ตลอดระยะเวลา 70 ปี นับแต่เสร็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทรงเป็นมิ่งขวัญของแผ่นดินเสมอมา พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างซาบซึ้งในพระราชจริยวัตรอันงดงาม พระบารมีที่ปกแผ่ไพศาล พระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ และเหนือสิ่งใด คือพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยการทรงงานด้วยพระวิริยะอุตสาหะ พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยทรงมุ่งหวังให้ชาวไทยมีความอยู่ดีกินดี บันดาลซึ่งความผาสุก ความสงบร่มเย็น และความสามัคคีของชนทุกหมู่เหล่าอย่างถ้วนหน้าสมดังพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า  “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้พสกนิกรชาวไทยทั้งแผ่นดินดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท และสานต่อขยายผลนำแนวทางพระราชดำริและพระราชปณิธานในการพัฒนาประเทศมาปฏิบัติอย่างยั่งยืนเสมอมา

             กรุงเทพมหานครได้น้อมนำโครงการพระราชดำริ ตลอดจนพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระปริมทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาเมืองในด้านต่างๆ อย่างเป็นขั้นตอน เป็นระบบ และครบวงจร อันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนากรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน เพื่อให้ชาวกรุงเทพมหานครมีความผาสุกร่มเย็น   คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สภากรุงเทพมหานคร ข้าราชการและบุคลากรกรุงเทพมหานคร ขอน้อมเกล้าฯ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ นำพระราชปณิธาน หลักการทรงงาน แนวพระราชดำริ และดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ให้สมดังพระราชปณิธานที่จะเห็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองสวรรค์ ที่มีความสุขอย่างยั่งยืนสืบไป

             ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำหรับในเรื่องการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่เดินทางเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯนั้น กรุงเทพมหานครก็จะดูแลพี่น้องประชาชนให้สะดวกสบายตามอัตภาพ ซึ่งในขณะนี้ได้มีพี่น้องชาวไทยเข้ามาลงนามแสดงความอาลัยมากขึ้นทุกวัน และในวันที่ 29 ต.ค. 59 ทางสำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปกราบพระบรมศพได้ในตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดคิวให้พี่น้องประชาชนในต่างจังหวัดเข้ามากราบพระบรมศพวันละ 5 จังหวัด จังหวัดละ 750 คน เมื่อรวมกับประชาชนในกรุงเทพฯ และผู้ที่เดินทางมาเองจากต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมาก ทั้งนี้กรุงเทพมหานครก็ได้เตรียมการจัดสถานที่รองรับ โดยประสานกับกองทัพบก กองทัพภาคที่ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะร่วมดูแลในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ส่วนในยามค่ำคืนนั้นก็จะมีเทศกิจ ตำรวจ อาสาสมัคร และสารวัตรทหารตรวจความเรียบร้อยทั่วบริเวณสนามหลวง

             ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนการคัดแยกขยะนั้นกรุงเทพมหานครได้ตั้งจุดคัดแยกขยะไว้ด้วยกันทั้งหมด 10 จุด โดยจะมีเจ้าหน้ากทม. และน้องๆ จิตอาสายืนให้คำแนะนำพี่น้องประชาชนในการคัดแยกขยะ เพื่อจะสร้างความคุ้นเคยและปลูกจิตสำนึกให้พี่น้องประชาชน ในส่วนการแจกบัตรคิวนั้น เป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งกรุงเทพมหานคร ก็จะจัดเต๊นท์ และเก้าอี้สำหรับนั่งรอคิวก่อนเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง จำนวน 1,800 ตัว และด้านหลังจะมีเต้นท์สำหรับยืนรอซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้อีก 1,300 คน นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนอย่าได้นำรถส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่สนามหลวง เพราะจะทำให้จราจรติดขัด ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กรุงเทพมหานครประสานกับกระทรวงคมนาคม และกองทัพ ในการจัดรถบริการประชาชนในจุดต่างๆ ไว้อย่างทั่วถึง

            นพ.สมชาย จึงมีโชค รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า ในส่วนของจุดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีทั้งหมด 13 จุด รอบสนามหลวงถึงพระบรมมหาราชวัง โดยจัดหน่วยแพทย์ พยาบาล พร้อมรถพยาบาลฉุกเฉินประจำจุดปฐมพยาบาลและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้บริการโดยรอบพื้นที่สนามหลวง
รูปภาพและบรรยากาศในงาน